รายละเอียด
สนามบินย่างกุ้ง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองย่างกุ้ง 15 กิโลเมตร (เวลาท้องถิ่นที่พม่าช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองย่างกุ้งโดยรถโค้ชปรับอากาศ
เที่ยง - บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)
พระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจี หรือ พระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2442 และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2450 โดยเศรษฐีพม่านามว่า “โบตา” และได้รับการบูรณะสร้างใหม่ ขึ้นในปี พ.ศ.2493 เนื่องจากเกิดความเสียหายจากสภาพอากาศ วัดพระตาหวาน ตั้งอยู่อยู่ในตัวเมืองย่างกุ้ง คนไทยส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ พระนอนตาหวาน เพราะนอกจากดวงตาที่สวยงามแล้ว ยังมีขนตาที่งอนงาม ส่วนลูกนัยน์ตา ทำด้วยแก้วที่สั่งผลิตเป็นพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มองดูแล้วเหมือนมีชีวิตราวกับมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน ใต้พระบาทที่วางไว้ไม่เสมอกันนั้นมีการวาดลวดลายสวยงามว่าด้วยสิ่งที่เป็นมงคล ประกอบด้วย ธรรมจักร มงคล 108 ประการ ทีแสดงโลกทั้ง 3 คือเครื่องหมาย 59 ประการแสดงถึงอากาศโลก เครื่องหมาย 21 ประการ แสดงถึงสัตว์โลก และเครื่องหมาย 28 ประการ แสดงถึงสังขารโลกและยังมีเครื่องหมายพระเจ้าจักรพรรดิรวมอยู่ในนั้นด้วย
วัดงาทัตจี เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัย แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมดและสลักเป็นลวดลายต่างๆ องค์พระพุทธรูปมีความสูงประมาณตึก 5 ชั้น จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง ดูสวยแปลกตา จากหน้าพระไปทางขวาด้านข้างจะเจอกับรูปพุทธประวัติที่เป็นภาพวาดและปูนปั้นลอยตัวเหมือนภาพสามมิติ
วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี วัดซเวตอเมียต หรือเมียตเซดอร์ Swe Taw Myat, Buddha Tooth Relic Pagoda หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อว่า "วัดพระเขี้ยวแก้วจุฬามณี" วัดนี้เป็นสถาปัตยกรรมพม่าโบราณพุกาม โดยรวมเอาสถาปัตยกรรมของพม่าในยุคต่างๆ มาผสมผสานเข้าด้วยกัน องค์เจดีย์เป็นทรงปราสาท 8 เหลี่ยม ปลายยอดเจดีย์ประดับด้วยทองคำแท้ ภายในองค์เจดีย์ประดับตกแต่งอย่างวิจิตร กลางโถงเจดีย์เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วอันศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้มาจากศรีลังกาตั้งแต่สมัยของพระเจ้าบุเรงนอง นับเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของย่างกุ้ง
มหาวิชยเจดีย์ MAHA WIZAYA PAGODA มหาวิชยเจดีย์ อยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากองทางทิศใต้ มหาวิชยเจดีย์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2523 มีความเชื่อของชาวเมืองว่า ภายในบรรจุพระเกศาธาตุสองเส้น ลักษณะเด่นของมหาวิชยเจดีย์ คือเจดีย์โดมสีขาว – ทอง ที่มีความอลังการของโถงตรงกลางที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ เพดานเป็นท้องฟ้า ผนังรอบๆเป็นภาพต้นโพธิ์ มีภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า เนื่องจากที่นี่อยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากอง จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมชมน้อยมาก จึงเรียกได้ว่าเป็นความงามที่ถูกลืมก็ว่าได้
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า) เป็นเจดีย์ทองคำสีทองเหลืองอร่าม อยู่บนเนินเขาเสนคุตตระ (Singuttara Hill) นานเกือบ 2,500 ปี มีตำนานเล่าว่า เจดีย์ชเวดากองเกิดขึ้นตั้งแต่พุทธกาล เมื่อสองพี่น้องตะปุสสะและภัลลิกะ เดินทางไปค้าขายที่อินเดียและเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจนปวารณาตนเป็นอุบาสกคู่แรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าจึงประทานเส้นพระเกศาให้ 8 เส้น ทั้งสองจึงนำกลับมาประดิษฐานที่เมืองย่างกุ้งหรือเมืองอสิตันชนะ โอกาละในอดีต และบรรจุในเจดีย์สูงเพียง 9 เมตรที่ทำจาก ทอง เงิน ดีบุก ทองแดงตะกั่ว หินอ่อน และเหล็ก ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินเมืองมอญและพม่าหลายองค์ได้เสด็จมาบูรณะและก่อเจดีย์ใหม่ครอบเจดีย์ถึง 7 ครั้ง เช่น พระนางชินซอว์บู (Queen Shin Sawbu) แห่งหงสาวดี ได้ถวายทองคำแท้เท่าน้ำหนักพระองค์ตีเป็นแผ่นทองหุ้มองค์พระธาตุไว้ ส่วนพระเจ้าธรรมเจดีย์ (Dhammazedi) ราชบุตรเขยของพระองค์ ส่วนในพระเจ้ามินดงแห่งมัณฑะเลย์ก็ทรงบูรณะยอดฉัตรใหม่แทนยอดฉัตรเก่าที่หักลงมาเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ปัจจุบันเจดีย์ชเวดากองมีความสูงถึง 122 เมตร ว่ากันว่า บนยอดฉัตรนั้นประกอบไปด้วยเพชรนิลจินดาและอัญมณีที่มีค่ามหาศาลสามารถมองเห็นแวววาวได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน
การเที่ยวชมเจดีย์ชเวดากองนั้นสามารถมาได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน โดยรอบฐานเจดีย์มีบันไดและประตูให้เลือกเดินขึ้นลงได้ 4 ทิศคือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่ละทิศมีหลังคากันแดดกันฝนอย่างดี เจดีย์ชเวดากองยามกลางวันว่าสวยแล้ว ยามแสงกลางคืนนั้นอร่ามงามยิ่งกว่า สมกับน้ำหนักทองคำที่ห่อหุ้มองค์เจดีย์อยู่ 1,100 กิโลกรัม และเป็นที่มาของความหมายชเวดากองที่แปลว่า ทองแห่งเมืองดากอง
สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง คือ ลานอธิฐาน ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารนิทรรศการ ทางทิศเหนือขององค์เจดีย์เป็นลานกว้างที่กษัตริย์ทุกพระองค์ของพม่าต้องมาขอพร ปัจจุบันเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากองโดยคุกเข่าหันหน้าเข้าหาองค์เจดีย์ สวดมนต์ตั้งใจอธิฐานเพื่อขอให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศ รวม 8 องค์ ท่านสามารถสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตัวเองได้ตามจุด โดยแต่ละจุดจะมีป้ายแสดงวันเกิดเป็นภาษอังกฤษและแสดงสัญลักษณ์ประจำวันเกิดเป็นรูปปั้นสัตว์ประจำวันเกิดให้อย่างชัดเจน
เย็น - บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 2) เมนูเป็ดปักกิ่ง+กุ้งแม่น้ำย่าง
ที่พัก SHANGRILA HOTEL หรือเทียบเท่า
เช้า - บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (มื้อที่ 3)
เจดีย์ซูเล ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจที่สำคัญ มีอายุมากกว่า 2,000 ปี เป็นเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม สีเหลืองทองอร่าม และมีความสูงมากกว่า 150 ฟุต ประดิษฐานพระเกศาธาตุของพระพุทธเจ้า ตามตำนานที่ตั้งของเจดีย์ซูเลในปัจจุบันเคยเป็นที่สถิตของนะนามว่า ซูเล เมื่อท้าวสักกะอยากจะช่วยเหลือกษัตริย์โอะกะลาปะ เพื่อหาสถานที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุ แต่ท้าวสักกะไม่ทราบว่าควรเป็นที่ไหน เหล่าเทวดา มนุษย์ พร้อมด้วยกษัตริย์โอะกะลาปะจึงมาประชุมบริเวณซูเล และนะซูเลจึงได้แนะนำสถานที่สำหรับการสร้างเจดีย์ชเวดากอง สมัยที่อังกฤษปกครองพม่า ได้มีการพัฒนาเมืองโดยใช้พระเจดีย์ซูเลเป็นจุดศูนย์กลางในการสร้างถนนออกไปยังจุดต่าง ๆ ทั่วเมืองย่างกุ้ง โดยชาวพม่าถือว่าพระเจดีย์แห่งนี้เป็นพระเจดีย์ทองอันเป็นศูนย์กลางของทุกสิ่ง และตั้งอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอย่างสวนสาธารณะมหาบัณฑุละ (Maha Bandoola Park) และศาลาว่าการกรุงย่างกุ้งอีกด้วย
เจดีย์กาบาเอ (Kaba Aye Pagoda) คำว่า กาบาเอ หมายถึง สันติภาพของโลก, โลกแห่งสันติสุข เป็นเจดีย์ทรงกลมที่มีความสูงและเส้นผ่าศูนย์กลางเท่ากัน (34 เมตร) สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2493-2495 ในสมัยนายกฯ อูนุ (นายกรัฐมนตรีคนแรกของเมียนมา) เพื่อใช้เป็นสถานที่ในการชำระพระไตรปิฏกครั้งที่ 6 ในช่วงปี พ.ศ.2497-2499
เจดีย์โบตาทาวน์ เจดีย์โบตาทาวน์ แปลว่า ทหาร 1,000 นาย โดยมีความเชื่อเล่าต่อๆกันมาว่าเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้วพระเจ้าโอกะลาปะกษัตริย์มอญ ได้ให้ทหาร 1,000 นาย ตั้งแถวถวายความเคารพพระเกศาธาตุ (สารีริกธาตุ) ที่อันเชิญมาจากอินเดียโดยนายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือเมืองดากอง ณ บริเวณนี้ เพื่อนำไปบรรจุไว้ที่มหาเจดีย์ชเวดากอง และทรงบรรจุเส้นพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้น ในเจดีย์นี้ วันเวลาผ่านไป ได้มีการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์ ผลจากความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฏว่า ไปพบของมีค่าหลายอย่างภายในเจดีย์ จึงสร้างโครงสร้างใหม่ขึ้นมาในปี พ.ศ.2496 และได้นำพระเกศาธาตุ มาครอบแก้วใสไว้ ใจกลางเจดีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สามารถมองเห็นเส้นพระเกศาธาตุได้ ภายในเจดีย์เป็นสีทองอร่ามสวยงาม และมีทางเดินภายในเจดีย์ให้สามารถเดินชมความสวยงามของเจดีย์อีกด้วย
นัตโบโบยี//เทพทันใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในนัตที่ชาวพม่านับถือมากที่สุดซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบจี) เพื่อขอสิ่งที่ตนปรารถนา วิธีสักการะ และขอพร เทพทันใจ จะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการเรื่องของสักการะอยู่ด้านหน้าของวัด ซึ่งจะประกอบไปด้วย มะพร้าว กล้วย ใบแห่งชนะ ผ้าคล้องคอ ร่มฉัตรกระดาษ ดอกไม้ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่นิยม นำมาถวายเทพทันใจ ส่วนวิธีการขอพร นิยมนำ ธนบัตร 2ใบ ม้วนเป็นกรวย ซ้อนกัน 2 ใบ นำไปเสียบไว้ในมือของเทพทันใจข้างที่ชี้ตรงมา โดยเอาหน้าผากแตะไปที่นิ้วชี้มือที่เทพทันใจชี้มาพร้อมอธิษฐาน ตามสิ่งที่ตนเองปรารถนา เมื่อเสร็จแล้วจึงดึงนำธนบัตรออกมา 1 ใบ เพื่อความเป็นสิริมงคล (วิธีการอธิษฐานให้ได้ผลดี ให้ท่านขอเพียงข้อเดียวที่ท่านอยากจะได้มากที่สุด)
เทพกระซิบ กระซิบ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเจดีย์โบตาทาวน์ เป็น 1 ใน นัตหรือผีหลวง 37 ตนที่ชาวพม่าเคารพนับถือมาก มีตำนานเล่าว่านางเป็นธิดาของพญานาคที่เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หลังจากนางสิ้นชีพในปี ค.ศ. 1957 จึงได้กลายมาเป็นนัตหรือเทะที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมาเนิ่นนาน
เที่ยง - บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 4)
เลือกซื้อสินค้าพื้นเมือง ณ ตลาดสก๊อต หรือเรียกอีกอย่างว่าตลาดโบยกอองซาน เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่มีชื่อเสียงที่สุดในพม่าเป็นศูนย์รวมของฝากทุกชนิด อาทิเช่น เสื้อผ้า ของที่ระลึกต่างๆ เครื่องเงิน, อัญมณี , ไม้แกะสลักพระพุทธรูป เทวรูปที่ทำด้วยไม้จันทน์, เครื่องแกะสลัก, เครื่องลงรักปิดทองต่างๆ, ถ้วยชามกังไสจีนโบราณ, โคมไฟแก้ว และแจกันเจียระไนโบราณ, นาฬิกาข้อมือเก่า, ผ้าไหมลายต่างๆ
เดินทางถึง โรงแรมที่พัก KYAITHIYO HOTEL หรือ เทียบเท่า นำท่านเช็คอิน จัดการเก็บสัมภาระเข้าที่พักให้เรียบร้อย
นมัสการ พระโกทัตจี KOE HTAT GYI BUDDHA พระพุทธรูปในอิริยาบถนั่งสมาธิที่ใหญ่ที่สุดในย่างกุ้ง สูงถึง 72 ฟุต คำว่า โก ในภาษาพม่าแปลว่าเก้า หมายถึงความเจริญก้าวหน้า วัดโกทัตจี มีทั้งหมด 9 ชั้น มุงด้วยหลังคา 9 ยอด ทั้งสองข้างของทางเข้ามีรูปปั้น กบยักษ์และงู ตามตำนานกล่าวว่า กบยักษ์กินงู เชื่อกันว่าเป็นสัญลักษณ์ แห่งชัยชนะ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่นิยมในการขอพระเรื่องชัยชนะในด้านต่างๆให้กับตัวเอง โดยวิธีการขอพร ท่านสามารถขอพรได้1ข้อ อธิษฐานแล้วนับลูกประคำ 9 รอบ
มุ่งหน้าสู่สนามบิน มิงกะลาดง
** หมายเหตุ ** 1. ค่าบริการข้างต้น ยังไม่รวมค่าทิปคนขับรถ และมัคคุเทศก์ท้องถิ่นท่านละ 1,000 บาท/ต่อท่าน 2. เด็กอายุเกิน 2 ขวบ เก็บทิป เท่ากับ ผู้ใหญ่ ตามข้อ1. ***ค่าทิปหัวหน้าทัวร์แล้วแต่ความพึงพอใจของท่าน***
ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารของเราเพื่อรับข้อเสนอหรือโปรโมชั่น