รายละเอียด
สนามบินย่างกุ้ง ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองย่างกุ้ง 15 กิโลเมตร (เวลาท้องถิ่นที่พม่าช้ากว่าไทยครึ่งชั่วโมง) หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมือง และศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางสู่ตัวเมืองย่างกุ้งโดยรถโค้ชปรับอากาศ
พระมหาเจดีย์ชเวดากอง (พระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย 1 ใน 5 มหาบูชาสถานสูงสุดของพม่า) เป็นเจดีย์ทองคำสีทองเหลืองอร่าม อยู่บนเนินเขาเสนคุตตระ (Singuttara Hill) นานเกือบ 2,500 ปี มีตำนานเล่าว่า เจดีย์ชเวดากองเกิดขึ้นตั้งแต่พุทธกาล เมื่อสองพี่น้องตะปุสสะและภัลลิกะ เดินทางไปค้าขายที่อินเดียและเกิดความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาจนปวารณาตนเป็นอุบาสกคู่แรกในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าจึงประทานเส้นพระเกศาให้ 8 เส้น ทั้งสองจึงนำกลับมาประดิษฐานที่เมืองย่างกุ้งหรือเมืองอสิตันชนะ โอกาละในอดีต และบรรจุในเจดีย์สูงเพียง 9 เมตรที่ทำจาก ทอง เงิน ดีบุก ทองแดงตะกั่ว หินอ่อน และเหล็ก ต่อมาพระเจ้าแผ่นดินเมืองมอญและพม่าหลายองค์ได้เสด็จมาบูรณะและก่อเจดีย์ใหม่ครอบเจดีย์ถึง 7 ครั้ง เช่น พระนางชินซอว์บู (Queen Shin Sawbu) แห่งหงสาวดี ได้ถวายทองคำแท้เท่าน้ำหนักพระองค์ตีเป็นแผ่นทองหุ้มองค์พระธาตุไว้ ส่วนพระเจ้าธรรมเจดีย์ (Dhammazedi) ราชบุตรเขยของพระองค์ ส่วนในพระเจ้ามินดงแห่งมัณฑะเลย์ก็ทรงบูรณะยอดฉัตรใหม่แทนยอดฉัตรเก่าที่หักลงมาเพราะเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ปัจจุบันเจดีย์ชเวดากองมีความสูงถึง 122 เมตร ว่ากันว่า บนยอดฉัตรนั้นประกอบไปด้วยเพชรนิลจินดาและอัญมณีที่มีค่ามหาศาลสามารถมองเห็นแวววาวได้อย่างชัดเจนในยามค่ำคืน
********************************************************************************
การเที่ยวชมเจดีย์ชเวดากองนั้นสามารถมาได้ทั้งตอนกลางวันและตอนกลางคืน โดยรอบฐานเจดีย์มีบันไดและประตูให้เลือกเดินขึ้นลงได้ 4 ทิศคือ เหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่ละทิศมีหลังคากันแดดกันฝนอย่างดี เจดีย์ชเวดากองยามกลางวันว่าสวยแล้ว ยามแสงกลางคืนนั้นอร่ามงามยิ่งกว่า สมกับน้ำหนักทองคำที่ห่อหุ้มองค์เจดีย์อยู่ 1,100 กิโลกรัม และเป็นที่มาของความหมายชเวดากองที่แปลว่า ทองแห่งเมืองดากอง
สถานที่สำคัญของพระมหาเจดีย์ชเวดากอง
คือ ลานอธิฐาน ตั้งอยู่ด้านหน้าอาคารนิทรรศการ ทางทิศเหนือขององค์เจดีย์เป็นลานกว้างที่กษัตริย์ทุกพระองค์ของพม่าต้องมาขอพร ปัจจุบันเป็นจุดที่ผู้คนนิยมมากราบไหว้บูชาเจดีย์ชเวดากองโดยคุกเข่าหันหน้าเข้าหาองค์เจดีย์ สวดมนต์ตั้งใจอธิฐานเพื่อขอให้ได้ในสิ่งที่ปรารถนา
นอกจากนี้รอบองค์เจดีย์ยังมีพระประจำวันเกิดประดิษฐานทั้งแปดทิศ รวม 8 องค์ ท่านสามารถสรงน้ำพระประจำวันเกิดของตัวเองได้ตามจุด โดยแต่ละจุดจะมีป้ายแสดงวันเกิดเป็นภาษอังกฤษและแสดงสัญลักษณ์ประจำวันเกิดเป็นรูปปั้นสัตว์ประจำวันเกิดให้อย่างชัดเจน
เจดีย์โบตาทาวน์ เจดีย์โบตาทาวน์ แปลว่า ทหาร 1,000 นาย โดยมีความเชื่อเล่าต่อๆกันมาว่าเมื่อประมาณ 2,000 ปีที่แล้วพระเจ้าโอกะลาปะกษัตริย์มอญ ได้ให้ทหาร 1,000 นาย ตั้งแถวถวายความเคารพพระเกศาธาตุ (สารีริกธาตุ) ที่อันเชิญมาจากอินเดียโดยนายวาณิชสองพี่น้องอัญเชิญมาทางเรือและมาขึ้นฝั่งเมืองตะเกิงหรือเมืองดากอง ณ บริเวณนี้ เพื่อนำไปบรรจุไว้ที่มหาเจดีย์ชเวดากอง และทรงบรรจุเส้นพระเกศาธาตุไว้ 1 เส้น ในเจดีย์นี้ วันเวลาผ่านไป ได้มีการบูรณะซ่อมแซมเจดีย์ ผลจากความเสียหายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งปรากฏว่า ไปพบของมีค่าหลายอย่างภายในเจดีย์ จึงสร้างโครงสร้างใหม่ขึ้นมาในปี พ.ศ.2496 และได้นำพระเกศาธาตุ มาครอบแก้วใสไว้ ใจกลางเจดีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สามารถมองเห็นเส้นพระเกศาธาตุได้ ภายในเจดีย์เป็นสีทองอร่ามสวยงาม และมีทางเดินภายในเจดีย์ให้สามารถเดินชมความสวยงามของเจดีย์อีกด้วย
นัตโบโบยี เทพทันใจ ซึ่งเป็นหนึ่งในนัตที่ชาวพม่านับถือมากที่สุดซึ่งชาวพม่ารวมถึงชาวไทยนิยมไปกราบไหว้บูชา ด้วยที่เชื่อว่าเมื่ออธิษฐานสิ่งใดแล้วจะสมปรารถนาทันใจการสักการะรูปปั้นเทพทันใจ (นัตโบโบจี) เพื่อขอสิ่งที่ตนปรารถนา วิธีสักการะ และขอพร เทพทันใจจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้บริการเรื่องของสักการะอยู่ด้านหน้าของวัด ซึ่งจะประกอบไปด้วย มะพร้าว กล้วย ใบแห่งชนะ ผ้าคล้องคอ ร่มฉัตรกระดาษ ดอกไม้ ซึ่งสิ่งของเหล่านี้เป็นสิ่งที่นิยม นำมาถวายเทพทันใจ ส่วนวิธีการขอพร นิยมนำ ธนบัตร 2ใบ ม้วนเป็นกรวย ซ้อนกัน 2 ใบ นำไปเสียบไว้ในมือของเทพทันใจข้างที่ชี้ตรงมา โดยเอาหน้าผากแตะไปที่นิ้วชี้มือที่เทพทันใจชี้มาพร้อมอธิษฐาน ตามสิ่งที่ตนเองปรารถนา เมื่อเสร็จแล้วจึงดึงนำธนบัตรออกมา 1 ใบ เพื่อความเป็นสิริมงคล (วิธีการอธิษฐานให้ได้ผลดี ให้ท่านขอเพียงข้อเดียวที่ท่านอยากจะได้มากที่สุด)
เทพกระซิบ ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามเจดีย์โบตาทาวน์ เป็น 1 ใน นัตหรือผีหลวง 37 ตนที่ชาวพม่าเคารพนับถือมาก มีตำนานเล่าว่านางเป็นธิดาของพญานาคที่เกิดศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแรงกล้า รักษาศีล ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ หลังจากนางสิ้นชีพในปี ค.ศ. 1957 จึงได้กลายมาเป็นนัตหรือเทะที่ชาวพม่าเคารพกราบไหว้กันมาเนิ่นนาน
เที่ยง - บริการอาหาร ณ ภัตตาคาร (มื้อที่ 1)… เมนูเป็ดปักกิ่ง+กุ้งแม่น้ำย่าง
พระพุทธไสยาสน์เจ้าทัตจี หรือ พระตาหวาน เป็นพระนอนปางพุทธไสยาสน์องค์ใหญ่ มีความยาวกว่า 70 เมตร สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2442 และแล้วเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ.2450 โดยเศรษฐีพม่านามว่า “โบตา” และได้รับการบูรณะสร้างใหม่ ขึ้นในปี พ.ศ.2493 เนื่องจากเกิดความเสียหายจากสภาพอากาศ วัดพระตาหวาน ตั้งอยู่อยู่ในตัวเมืองย่างกุ้ง คนไทยส่วนใหญ่รู้จักในชื่อ พระนอนตาหวาน เพราะนอกจากดวงตาที่สวยงามแล้ว ยังมีขนตาที่งอนงาม ส่วนลูกนัยน์ตา ทำด้วยแก้วที่สั่งผลิตเป็นพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มองดูแล้วเหมือนมีชีวิตราวกับมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ภายใน ใต้พระบาทที่วางไว้ไม่เสมอกันนั้นมีการวาดลวดลายสวยงามว่าด้วยสิ่งที่เป็นมงคล ประกอบด้วย ธรรมจักร มงคล 108 ประการ ทีแสดงโลกทั้ง 3 คือเครื่องหมาย 59 ประการแสดงถึงอากาศโลก เครื่องหมาย 21 ประการ แสดงถึงสัตว์โลก และเครื่องหมาย 28 ประการ แสดงถึงสังขารโลกและยังมีเครื่องหมายพระเจ้าจักรพรรดิรวมอยู่ในนั้นด้วย
วัดงาทัตจี ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม กับ วัดเจ้าทัตจีหรือวัดพระตาหวาน เป็นวัดที่มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ปางมารวิชัยที่แกะสลักจากหินอ่อน ทรงเครื่องแบบกษัตริย์ เครื่องทรงเป็นโลหะ ส่วนเครื่องประกอบด้านหลังเป็นไม้สักแกะสลักทั้งหมดและสลักเป็นลวดลายต่างๆ องค์พระพุทธรูปมีความสูงประมาณตึก 5 ชั้น จำลองแบบมาจากพระพุทธรูปทรงเครื่องสมัยยะตะนะโบง ดูสวยแปลกตา จากหน้าพระไปทางขวาด้านข้างจะเจอกับรูปพุทธประวัติที่เป็นภาพวาดและปูนปั้นลอยตัวเหมือนภาพสามมิติ
นำท่านแวะสักการะ สถูปพระสุพรรณกัลยา ณ วัดไจ้กะเลาะ (KYAIK KALO PAGODA) วัดแห่งนี้เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่เก็บอัฐิของพระสุพรรณกัลยา โดยมีซุ้มรูปปั้นของพระนางเป็นรูปสักการะ ด้วยเรื่องราวของพระนางได้เลือนหายไปตามกาลเวลานับ 400 ปี เชื่อกันว่าหลวงปู่โง่น ได้มาทำพิธีปลดปล่อยดวงวิญญาณพระสุพรรณกัลยาและเหล่านายทหารไทยที่ถูกจองจำตั้งแต่ครั้งเสียกรุงครั้งที่สอง (เชิญร่วมระลึกถึงวีรกรรมและความเสียสละของบรรพกษัตรีและนักรบไทยที่ เสียสละพระองค์เป็นตัวประกันเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง ร่วมสวดมนต์อุทิศกุศลให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษไทยในอดีต
มหาวิชยเจดีย์ (MAHA WIZAYA PAGODA) มหาวิชยเจดีย์ อยู่ติดกับเจดีย์ชเวดากองทางทิศใต้ มหาวิชยเจดีย์ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.2523 มีความเชื่อของชาวเมืองว่า ภายในบรรจุพระเกศาธาตุสองเส้น ลักษณะเด่นของมหาวิชยเจดีย์ คือเจดีย์โดมสีขาว – ทอง ที่มีความอลังการของโถงตรงกลางที่ประดิษฐานพระพุทธรูป 8 องค์ เพดานเป็นท้องฟ้า ผนังรอบๆเป็นภาพต้นโพธิ์ มีภาพพุทธประวัติของพระพุทธเจ้า
เจดีย์โกทัตจี (Koe Htat Gyi Pagoda) ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่ถือว่าใหญ่ที่สุดองค์หนึ่งในย่างกุ้ง สูงถึง 72 ฟุต หรือเรียกอีกนามว่า พระอตุลาธิภาติ มหามุนี คำว่าโกในภาษาพม่า แปลว่าเก้า หมายถึงความเจริญก้าวหน้า พระเจดีย์โกทัตจีนี้สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1905 มีลักษณะสถาปัตยกรรมพิเศษคือ เป็นอาคาร 9 ชั้น มุงหลังคา 9 ยอด ทางเดินเข้าอาคารทั้ง 2 ด้านมีปฎิมากรรมปูนปั้น รูปกบยักษ์และงู ซึ่งสัตว์ทั้งสองนี้มีที่มาจากตำนานว่าไว้ว่า กบยักษ์ได้กินงู ซึ่งถือเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะในดินแดนแห่งนี้ถือเป็นอีกสถานที่ศักดิ์สิทธิแห่งหนึ่ง ที่นิยมขอพรในเรื่องชัยชนะและโชคลาภต่างๆ วิธีการขอพร ท่านสามารถขอพรได้ 1ข้อ อธิษฐานแล้วนับลูกประคำ 9 รอบ
สมควรแก่เวลานำท่านเดินทางสู่สนามบินย่างกุ้ง
ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารของเราเพื่อรับข้อเสนอหรือโปรโมชั่น